ข่าวพม. จัดงานวันสังคมสงเคราะห์แห่งชาติและวันอาสาสมัครไทย ปี 2568 ยกย่องคนดี และองค์กรที่เสียสละเพื่อสังคม - kachon.com

พม. จัดงานวันสังคมสงเคราะห์แห่งชาติและวันอาสาสมัครไทย ปี 2568 ยกย่องคนดี และองค์กรที่เสียสละเพื่อสังคม
กะฉ่อนวาไรตี้

photodune-2043745-college-student-s

เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2568 พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี เป็นประธานในพิธีประกาศเกียรติคุณอาสาสมัครดีเด่นและองค์การที่มีกิจกรรมทางสังคมดีเด่น เนื่องในงานวันสังคมสงเคราะห์แห่งชาติและวันอาสาสมัครไทย ประจำปี 2568 โดยมี นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์การจัดงาน และดร.วิชัย ไทยถาวร รองประธานสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวรายงานถึงการคัดเลือกอาสาสมัครดีเด่นและองค์การที่มีกิจกรรมทางสังคมดีเด่น พร้อมด้วย นายกันตพงศ์ รังษีสว่างปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ คณะผู้บริหารกระทรวง พม. ผู้เข้ารับโล่ประกาศเกียรติคุณ คณะอนุกรรมการคัดเลือกอาสาสมัครดีเด่นและองค์การที่มีกิจกรรมทางสังคมดีเด่น ผู้แทนส่วนราชการ องค์การสวัสดิการสังคม องค์กรเอกชน ผู้แทนองค์กรที่มีการปฏิบัติงานกับอาสาสมัคร เจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด เข้าร่วมงาน ณ ห้องปรินซ์แกรนด์บอลรูม ชั้น 11 อาคาร 1 โรงแรมปรินซ์พาเลซ กรุงเทพมหานคร

นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) กล่าวว่าคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2528 กำหนดให้วันที่ 21 ตุลาคมของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เป็นวันสังคมสงเคราะห์แห่งชาติ ต่อมาคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2543 เห็นชอบให้วันที่ 21 ตุลาคม ของทุกปี เป็นวันอาสาสมัครไทย กระทรวงการพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ร่วมกับสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดงานวันสังคมสงเคราะห์แห่งชาติและวันอาสาสมัครไทยเป็นประจำทุกปี โดยร่วมกันพิจารณาคัดเลือกอาสาสมัครดีเด่น และองค์การที่มีกิจกรรมทางสังคมดีเด่น ของแต่ละปี ซึ่งปี 2568

กำหนดจัดงานวันสังคมสงเคราะห์แห่งชาติและวันอาสาสมัครไทย ประจำปี 2568 ตรงกับวันอังคาร ที่ 21 ตุลาคม 2568 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่พระเกียรติคุณและพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ในงานด้านสวัสดิการสังคม สังคมสงเคราะห์ การพัฒนาสังคม อีกทั้งเพื่อเชิดชูเกียรติและประกาศเกียรติคุณอาสาสมัครดีเด่นและองค์การที่มีกิจกรรมทางสังคมดีเด่น โดยมีกิจกรรมสำคัญ ประกอบด้วย การประชุมสมัชชาสวัสดิการสังคมแห่งชาติ ครั้งที่ 33 ประจำปี 2568 หัวข้อ “การผนึกกำลังหุ้นส่วนในการจัดสวัสดิการสังคมเพื่อการคุ้มครองทางสังคม” พิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณอาสาสมัครดีเด่น 265 ราย และองค์การที่มีกิจกรรมทางสังคมดีเด่น 25 องค์กร

ซึ่งบทบาทหน้าที่ของอาสาสมัคร มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการทำงานของกระทรวง พม. และอีกหลายกระทรวง ประเทศไทยโชคดีที่มีสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ทรงเป็นแบบอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่ทรงเป็นแบบอย่างให้กับทุกคน ได้ทรงริเริ่มแนวทางให้กับประสกนิกรชาวไทยมาจนถึงวันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชปณิธานที่จะทรงสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชกรณียกิจ ดังนั้นคุณูปการที่สถาบันพระมหากษัตริย์ได้พระราชทานให้กับคนไทย ควรจะน้อมนำแนวทางมาปรับใช้ในการทำงานในชีวิตประจำวัน การทำงานอาสาสมัครนั้น หลายภารกิจไม่ได้ค่าตอบแทน บางครั้งต้องสละกำลังทรัพย์ส่วนตัวและกำลังกาย อาศัยความเสียสละเป็นอย่างยิ่ง จึงขอเป็นกำลังใจให้กับอาสาสมัครทุกท่าน และแสดงความยินดี ยกย่องเชิดชูเกียรติให้กับอาสาสมัครดีเด่น องค์การที่มีกิจกรรมทางสังคมดีเด่น และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าอาสาสมัครทุกท่าน จะยังคงดำเนินภารกิจที่เข้มแข็งเช่นนี้ เป็นตัวอย่างให้กับอาสาสมัครทั่วประเทศ

นายกันตพงศ์ รังสีสว่าง ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) กล่าวว่า กระทรวง พม. และสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ร่วมกันจัดงานวันสังคมสงเคราะห์แห่งชาติและวันอาสาสมัครไทยเป็นประจำทุกปี เพื่อรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ และพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พระมารดาแห่งการสังคมสงเคราะห์) ในงานด้านการจัดสวัสดิการสังคม สังคมสงเคราะห์ และการพัฒนาสังคม ปัจจุบันประเทศไทย กำลังเผชิญกับความท้ายทายจากภัยธรรมชาติ ปัญหาความยากจน การตกงานกะทันหัน และการเปลี่ยนแปลงของสังคมอย่างรวดเร็ว ดังนั้น การยกระดับแผนพัฒนางานสวัสดิการสังคมไทยจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อนำไปสู่การกำหนดทิศทางการดำเนินงานที่ชัดเจน และขับเคลื่อนงานภายใต้สถานการณ์สังคมดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล

ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณภาคีเครือข่าย ทั้งองค์การเอกชน องค์กรสาธารณประโยชน์ องค์กรสวัสดิการชุมชน และอาสาสมัคร ที่ทำงานร่วมกับกระทรวง พม. ด้วยดีเสมอมา ครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสอันดีที่กระทรวง พม. และภาคีเครือข่าย จะได้ร่วมกันคิด ร่วมแลกเปลี่ยนความเห็น ให้มีความสอดคล้องกับสถานการณ์ทางสังคมและสามารถจัดสวัสดิการสังคมให้กับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างทั่วถึง ครอบคลุม และเป็นธรรม ต่อไป

หนังสือพิมพ์กะฉ่อนดอทคอม ชาย by กะฉ่อน  รายงาน