สามารถ ร่วมสัมมนาขับเคลื่อนแก้หนี้สินประชาชน พร้อมติดอาวุธทางปัญญาห่างไกลแชร์ลูกโซ่
กะฉ่อนวาไรตี้
วันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม 2565 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุม โรงแรมที่อาร์ ร็อก ฮิลล์ ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงชลา นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม / ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย ร่วมเป็นวิทยากรในงานสัมมนา กระบวนการยุติธรรมทางเลือกโดยพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ.2562 โดยมี นายพยม พรหมเพชร กรรมาธิการแก้ไขปัญหาหนี้สินแห่งชาติ สภาผู้แทนราษฎรกล่าวเปิดการสัมมนา ซึ่งในงานยังมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิอีกหลายท่านร่วมกิจกรรม อาทิ นายวินัย ครุวรรณพัฒน์ / พ.ต.ท.จรินทร์ ชะโนวรรณ / ผช.สุพล เพชรานนท์ เป็นต้น และมีผู้มีเกียรติ ประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวจำนวนหลายร้อยท่าน
โดยวันนี้ นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ได้มาร่วมเป็นวิทยากร สัมมนาในหัวข้อ การโกงโดย แชร์ลูกโซ่ ซึ่งนายสามารถได้กล่าวว่า วันนี้สิ่งที่ตนเองต้องการมาพูดถึงเป็นสิ่งแรกคือการติดอาวุธทางความคิด ให้มีความรู้ให้ทุกท่านไม่ต้องถูกกลอุบายให้เข้าไปร่วมในเครือข่ายแชร์ลูกโซ่ ซึ่งในประเทศไทยเรามีคดีแรก เป็นคดีตัวอย่างคือคดีแชร์แม่ชม้อย ถ้าตนเองย้อนกลับไปพูดเรื่อง แชร์แม่ชม้อยเจ้าแม่แชร์ลูฏโซ่คนแรก ที่ศาลจำคุกท้าวแชร์ ถือเป็นโทษสูงอันดับสองในกินเนสบุ๊คก็ว่าได้ เพราะโทษติดที่ศาลตัดสินในตอน 27 ก.ค.2532 รวมจำคุก 154,005 ปี ซึ่งติดจริง 7 ปี 11 เดือน 5 วัน โดยแม่ชม้อยขัดตั้งบริษัทค้าน้ำมัน ชื่อ บริษัทปิโตเลียมแอนด์มารีน เซอร์วิส จำกัด ทำการค้าน้ำมันทกชนิด มีเรือเดินทะเลสำหรับขนส่งน้ำมัน ได้เริ่มชักชวนประชาชนมาเล่นแชร์น้ำมัน อ้างว่าจะได้รับค่าตอบแทน 78% ต่อปี จนมีผู้ถูกหลอกร่วมหมื่นราย ได้รับความเสียหาย สี่พันกว่าล้าน ในสมัย 30 ปีก่อน สมัยนั้นไม่มีกฎหมายใดจะจับแม่ชม้อยได้ มีเพียงกฎหมายอาญาฉ้อโกงประชาชน มาตรา343 และคนที่ได้เงินจากแม่ชม้อยก็ไม่มีใครมาร้องทุกข์ ทำให้สถาบันทางการเงินในสมัยนั้นเริ่มจะทรุดเพราะประชาชนนำเงินไปลงทุน ไปฝากกับแม่ชม้อยกันหมด จน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี เห็นว่าประเทศเริ่มมีความเสียหายได้สั่งกรมสรรพากรไปตรวจสอบบริษัทปิโตเลียมแอนด์มารีน เซอร์วิส จำกัด ของแม่ชม้อยที่อ้างว่าทำกิจกรารค้าน้ำมันว่ามีจริงหรือไม่ ปรากฏว่า บริษัทดังกล่าวไม่มีการเสียภาษี งบดุลต่างๆ มีแต่เอสเงินจากคนใหม่มาจ่ายให้กับคนเก่าไปเรื่อยๆ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เห็นว่าถ้าปล่อยไว้ประเทศจะพินาศ และไม่มีกฎหมายใดๆเอาผิดแม่ชม้อยได้เลย จึงต้องเอากฎหมายพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 ขึ้นมา เป็นการออกฎหมายฉุกเฉิน ว่าใครชักชวนให้ร่วมลงทุนโดยเสนออัตราดอกเบี้ยสูงกว่ากฎหมายโดยบริษัทไม่ได้ดำเนินกิจการใดๆถือเป็นการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และในปี 2528 แม่ชม้อยถูกจับกุม จึงไม่สามารถนำเงินไปจ่ายผู้ร่วมลงทุนเก่าๆได้ผู้เสียหายจึงเริ่มมาร้องทุกข์ ระยะเวลาไม่ถึง 2 เดือน มีผู้มาแจ้งความดำเนินคดีแก่นางชม้อย ทั้งสิ้น 15,473 ราย รวมเป็นยอดเงินที่ถูกเบี้ยวถึง 4,822 ล้านบาทเศษ
นี่คือตัวอย่างความน่ากลัวของแชร์ลูกโซ่ ตนเองเคยลงไปพบผู้เสียหายจากคดีแชร์ลูกโซ่นับหมื่นคน ตนเองรู้สึกสะเทือนใจกับบางเคส เช่น ตนเองไปพบผู้เสียหายรายหนึ่งจนมาก บ้านเป็นสังกะสี หารายได้จากการปูกระเบื้องวันละ 300 บาท ถูกเพื่อนสมัยอนุบาลมาชักชวนลงทุนกับบริษัทหนึ่งซึ่งจะได้รับค่าตอบแทนสูง จึงได้ปรึกษากับญาติเอาที่นาที่เป็นมรดกของตระกูลเข้าธนาคาร ได้เงินมาสามแสน ไปลงทุนกับบริษัทแชร์ลูกโซ่ ผ่านไปสองเดือนบริษัทดังกล้าวถูก ดีเอสไอจับ และเงินก็ถูกอายัด ทำให้ชีวิตของผู้เสียหายคนดังกล่าวเสียใจคิดสั้นจะห่าตัวตายโดยไป จว.สมุทรสาคร จะกระโดดน้ำตาย แต่สามีได้ห้ามปรามไว้ทัน และเร็วๆนี้ก็มีข่าวครูสาวสองคนกระโดดน้ำฆ่าตัวตายโดยตนเองก็ได้ส่งพวงหรีดไปให้ และนำเรื่องราวมีตีแผ่ถึงโทษภัยการถูกโกง และแชร์ลูกโซ่
ตนเอง ในฐานะเป็นกรรมาธิการแก้ไขปัญหาหนี้สินแห่งชาติ เคยเข้าร่วมประชุมตามวาระต่างๆ ตนเองมีความเห็นว่าถ้าเราดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน ไม่สามารถแก้ไขปัญหาหนี้สินของประชาชนได้อย่างแท้จริง เพราะคนที่จ่ายหนี้สินดอกเบี้ยมากที่สุดคือคนจน ยกตัวอย่าง คนรวยรูดบัตรเครดิต ก็สามารถจ่ายต้นปิดการใช้บัตรได้ทุกเดือน ส่วนคนจน จ่ายได้แต่ดอก ต้นยังไม่มีจ่าย นั่นคือปัญหาที่ต้องแก้ไขให้หนี้มันหมด สมัยตนเองเป็น ผู้ช่วยรัฐมนตรี ได้ทำโครงการ ไกล่เกลี่ยหนี้สิน ซึ่งผู้เข้าร่วมโครงการก็ยินดีจ่ายหนี้สิน แต่พอถึงเวลาทางประชาชนไม่มีเงินก็ไม่สามารถจ่ายได้ เพราะฉะนั้นประเด็นหลักเราต้องแก้ไขให้ถูก โดยตนเองกำลังขับเคลื่อนการแก้ปัญหาหนี้สินของประชาชนร่วมกับ กรรมาธิการแก้ไขปัญหาหนี้สินแห่งชาติสภาผู้แทนราษฎร เพื่อช่วยเหลือประชาชนต่อไป
หนังสือพิมพ์กะฉ่อนดอทคอม ชาย by กะฉ่อน รายงาน