ข่าวพรหมชีวา เตรียมผนึกกำลัง ม.ราชภัฏพระนคร นำร่องสนับสนุนโครงการโคกหนองนาโมเดลตามพระราชดำริ ก่อนเตรียมปูพรม อีก 37 ม.ราชภัฏฯ ทั่วประเทศ ร่วมมือผลักดันพัฒนาชาวนาไทย - kachon.com

พรหมชีวา เตรียมผนึกกำลัง ม.ราชภัฏพระนคร นำร่องสนับสนุนโครงการโคกหนองนาโมเดลตามพระราชดำริ ก่อนเตรียมปูพรม อีก 37 ม.ราชภัฏฯ ทั่วประเทศ ร่วมมือผลักดันพัฒนาชาวนาไทย
กะฉ่อนวาไรตี้

photodune-2043745-college-student-s

เมื่อวันที่ 20 พ.ค.2564 เวลา 10.00 น.ที่ห้องอธิการบดี ชั้น 7 มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร เขตบางเขน กรุงเทพ คุณสุขุม วงประสิทธิ ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ / ประธานบริหาร บริษัท พรหมชีวา จำกัด คุณเตือนใจ วงประสิทธิ ประธานกรรมการบริษัท พรหมชีวา จำกัด พร้อมคณะ เดินทางเข้าพบ รศ.ดร.เปรื่อง กิจรัตน์ภร อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร เพื่อปรึกษาหารือการขอความร่วมมือด้านต่างๆ เพื่อสนับสนุนในการดำเนินการสนองปณิธานตามโครงการในพระราชดำริของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และ รัชกาลที่10 อาทิ โคกหนองนาโมเดล ซึ่งแบ่งย่อยตามโครงการต่างๆอีกหลายโครงการ อาทิ อิ่มท้องสมองดี / เกษตรแปลงใหญ่ / โครงการข้าวหอมคืนถิ่นอโยธยา เป็นต้น เพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้เกษตรกรและชาวนา พัฒนาวงการด้านเกษตรกรรมประเทศไทยให้มีความสมบูรณ์ ส่งเสริมการกระจายรายได้ช่วยเหลือประชาชน อีกทั้งส่งเสริมผลิตภัณฑ์ของดีของประเทศไทยให้คนไทยได้นำมาอุปโภคและส่งออกไปยังต่างประเทศ

คุณสุขุม วงประสิทธิ กล่าวว่า ทางบริษัท พรหมชีวา จำกัด นั้นได้ ร่วมกับสมาคมสถาบันชาวนาไทย ในการดำเนินการสนองปณิธานทั้ง 4 ประการเพื่อเป็นการสนองคุณแก่สถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อันได้แก่ 1.เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน 2.ยกพระพุทธศาสนาเป็น ศาสนาเอกของโลก 8000 ปี และให้ทุกศาสนาอยู่ร่วมกันอย่างสันติ 3.ถวายความจงรักภักดีพระบรมราชจักรีวงษ์ 4. พัฒนาคนไทยให้มีอายุขับเฉลี่ย 120 ปี ด้วยโอสถธรรมในการพัฒนาสุขภาพและใจตามหลักพุทธศาสตร์การแผนไทย

ซึ่งการดำเนินการสร้างรอยต่อการสนองปณิธานนี้ต้องได้รับการสนับสนุนองค์ความรู้ของมหาวิทยาลัยราชภัฏ ภูมิปัญญาของปราชญ์ชาวบ้านมาแบ่งปันแลกเปลี่ยนเพื่อพัฒนาต่อยอดแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามศาสตร์พระราชา ให้ครอบคลุมทั่วราชอาณาจักรไทยให้ประจักษ์เป็นจริง เช่น การทำนาแปลงใหญ่ซึ่ง ขณะนี้ทางบริษัท พรหมชีวา จำกัด ได้ดำเนินการทำแปลงนาสาธิต ตามนโยบายเกษตรแปลงใหญ่ หนึ่งในโครงการโคกหนองนาโมเดล ตามพระราชดำริ ไว้สองที่ คือ ที่ ต..บึงคอไห อ.ลำลุกกา จ.ปทุมธานี และที่ บ้านคลองบางเลน อ.บางเลน จ.นครปฐม ซึ่งได้ทำการหยอดข้าวและอยู่ในช่วงที่รอต้นข้าวเจริญงอกงาม ซึ่งในขั้นตอนนี้จำเป็นต้องใช้หลักวิชาการของ คณะอาจารย์ ในด้านที่เกี่ยวข้องในการให้ความรู้แก่เกษตรกร เพื่อพัฒนาไปเป็นต้นแบบศูนย์การเรียนรู้ด้านเกษตรกรรมในอนาคต

และในอีกด้านที่จะช่วยให้นักศึกษาจบใหม่ได้มีส่วนร่วมและมีงานทำ คือการนำนักศึกษาไปฝึกหัดด้านนวัตกรรม ที่ทางบริษัท พรหมชีวา จำกัด ได้สนับสนุน และ ใช้หลักการและเหตุผลที่ได้เรียนมานำความรู้มาใช้ในการเกษตรทั้งภาคทฤษฏี และปฏิบัติ รวมถึงการใช้การอุตสาหกรรมเข้ามาพัฒนาการทำนา ทำเกษตรต่อไป

ด้วยการนี้ บริษัท พรหมชีวา จำกัด จึงขอรับการสนับสนุนจัดทำความร่วมมือด้านต่าง ๆ จากมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ซึ่งเป็นที่แรกที่ บริษัท พรหมชีวา จำกัด จะทำการนำร่องก่อนจะนำเสนอมหาวิทยาลัยราชภัฏทั้งหมด 38 แห่ง ซึ่งแนวทางการขอความร่วมมือจากสถาบันการศึกษามีดังนี้

  1. ขอจัดทำขอความร่วมมือทางด้านวิชาการจากนักวิชาการ
  2. ขอจัดทำข้อตกลงว่าด้วยการออกแบบผลิตภัณฑ์
  3. ขอจัดทำความร่วมมือในการส่งเสริมการขาย ในลักษณะวิสาหกิจชุมชน (จำหน่ายข้าวสารถุง และผลิตภัณฑ์ จากวิสาหกิจชุมชนทั่วประเทศ)

โดย บริษัท พรหมชีวา จำกัด จะให้การสนับสนุนการศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัย ตลอดถึงทุนการศึกษาแก่นักวิชาการ นักวิจัย อาจารย์ และนักศึกษา ของกลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏทั้ง 38 แห่ง เพื่อขับเคลื่อนส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนในท้องถิ่น และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในภูมิภาคต่างๆ ของประเทศไทย และหลังเสร็จสิ้นการประชุม ผู้บริหารของบริษัทพรหมชีวา ได้มอบของที่ระลึก เป็นข้าวสาร กข.43 ที่ช่วยลดน้ำตาลในเลือด และพระเครื่องพุทธบูชา ไว้ให้แก่รศ.ดร.เปรื่อง กิจรัตน์ภร อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร และ คณะ ไว้เป็นที่ระลึก

 

หนังสือพิมพ์กะฉ่อนดอทคอม  ชาย by กะฉ่อน  รายงาน