ข่าวย้อนรอยประวัติ ผกก.สิงห์ ทำไมคนลองของถึงต้องถอย - kachon.com

คดีดัง ไอ้คล้าว 2018 ที่โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ้คส่วนตัว ในข้อความประมาณว่า ให้เพื่อนๆช่วยไถ่ชีวิตควาย ตัวหนึ่งชื่อ ทองคำ ที่ต้องใช้เงินที่เป็นค่าไถ่ตัวถึง 100,000 บาท และได้มีการแชร์ต่อกันจนมีผู้ใจบุญช่วยเหลือ โอนเงินคนละเล็กละน้อย จนรวมเงินบริจาคถึงกว่า 1 แสนบาท

แต่แล้วเรื่องดังกล่าวก็ไม่ดำเนินไปอย่างสวยงาม เมื่อ ทนายสงกรานต์ อัจริยทรัพย์ ได้เดินทางมาพร้อมกับ นายก อบต.สุขเดือนห้า เพื่อแจ้งความแก่ พี่คล้าว ในคดีฉ้อโกง เพราะว่าการขอเรี่ยไรไถ่ควายนั้นไม่เป็นความจริง นายก อบต.คนนี้ต่างหากที่เป็นเจ้าของควาย ส่วนพี่คล้าวนั้นเป็นอดีตลูกน้องและได้ว่าจ้างเลี้ยงควายเท่านั้น โอละพ่อ เมื่อเหตุการณ์พลิกผัน ไปเช่นนี้ รายการต่างๆได้นำพี่คล้าวไปออกรายการสร้างกระแสสังคมขึ้น รวมทั้งบรรดานักกฎหมายชื่อดังที่ออกมาเล่าแง่คิดกฎหมายว่าพี่คล้าวไม่ผิด จึงเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์สนั่น กันไปทั่วหล้า ตามกระแสนิยมคนไทย จนกระแสดังกล่าวย้อนมาถึงตัว พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช ผกก.สน.คันนายาว ซึ่งถูกจัดเต็มทั้งระดับรองอธิบดีอัยการ ทนาย รวมไปถึงคอมเมนท์มากมายแก่สังคม ว่า คดีแบบนี้รับแจ้งไปได้อย่างไร แต่สุดท้ายแล้ว ความเป็น พ.ต.อ.สิงห์ นายตำรวจที่ยึดมั่นในอุดมการณ์ และ คร่ำหวอดอยู่ในการทำงานด้านสอบสวนมานานนับ10 ปี จึงได้คลี่คลายปัญหาให้เป็นที่ประจักษ์ได้อีกหนึ่งคดีดัง

ถ้าหากย้อนเล่าประวัติของท่าน ผกก. จะรู้ได้ว่า ทำไมท่านถึงไม่เคยกลัวใคร นั่นเพราะท่านยืนอยู่บนความถูกต้องของกฎหมายอย่างแท้จริง และกล้าเผชิญกับทุกริมฝีปากที่เข้ามาปะทะ นักรบย่อมมีบาดแผล คนทำงานย่อมมีอุปสรรค ท่านอาจจะเคยถูกฟ้องจากการทำคดี แต่สุดท้ายกฎหมาย และความถูกต้อง ก็นำพาให้ท่านชนะอุปสรรค ทั้งมวลมาจนบัดนี้

พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช อายุ 48 ปี ชาว อ.หนองแค จ.สระบุรี จบจาก นักเรียนเตรียมทหารรุ่น 30 นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 46 เริ่มรับราชการครั้งแรก ปี2536 และเคย ดำรงตำแหน่ง รอง สว.สส. สน.ดอนเมือง ตำแหน่ง รองสว.สส. สน.สายไหม พนักงานสอบสวน สน.บางเขน พงส.ผนพ.กก.2 บก.ป. พงส.ผท.ค. สน.บางเขน ตำแหน่ง ผกก.(สอบสวน) สน.บางเขน ตำแหน่ง ผกก(สอบสวน)กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.บช.น. ก่อน ดำรงตำแหน่ง ผกก.สน.คันนายาว จนปัจจุบัน โดยใช้ชีวิตร่วม 10 ปี ที่ กองบังคับการปราบปราม ซึ่งท่านได้ผ่านงานด้านสืบสวน สอบสวน มาทั้งชีวิต ประสบการณ์ไม่ต่ำกว่า 25 ปี ทำสำนวนคดีความนับไม่ถ้วน คงมีนายตำรวจไม่กี่คนที่สามารถกุมหัวใจของคนทั้งเมืองคันนายาว ได้อย่างท่าน

นอกจากนี้ พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช นับเป็นนายตำรวจที่อยู่เบื้องหลังการปิดคดีสำคัญหลายคดีล้วนเป็นคดีใหญ่ ซึ่งถือเป็นที่ไว้ใจของ พล.ต.อ.วินัย ทองสอง พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ พล.ต.ต.อัครเดช พิมลศรี อดีต ผบก.ป. โดยที่โดดเด่นสมัยนั้น ยังคงยศ พ.ต.ท.สิงห์ สิงห์เดช พงส.(สบ 2) กก.2 บก.ป คดีที่สอบสวนจนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญได้แก่

ปี2552 ปิดคดีแฮกเกอร์ธนาคารกรุงไทย สามารถควบคุมตัว นายประเกียรติ บุญเหมาะ อายุ 34 ปี ชาว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี นายแอนตอน โซลดาแทนคอฟ อายุ 26 ปี ชาวรัสเซีย และ นายวีนูเชนโก โอเล็คซานเดอร์ อายุ 32 ปี ชายยูเครน มาสอบสวน หลังจับกุมได้ เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.52 พร้อมของกลางบัตรประชาชน ของ นายเอื้ออังกูร อัครชัยไพศาล บัตรประชาชนของ นายประเกียรติ พร้อมรูปถ่าย ใบถอนเงินธนาคารกรุงไทย สาขาที่เกิดเหตุ ชื่อบัญชีของ นายเอื้ออังกูร ถอนเงิน 6,500,000 บาท เงินสด 6,500,000 บาท สมุดคู่ฝากเงินออมทรัพย์ ธนาคารกรุงไทย สาขาย่อยนิคมอุตสาหกรรมสยามอีสเทิร์น ของ นายเอื้ออังกูร บัตรวีซ่าอีเล็กตรอนของธนาคารกรุงไทย สามารถจับกุมได้ขณะนั่งรออยู่ในรถยนต์ของกลางที่หน้าธนาคารดังกล่าว ซึ่งคดีนี้ เป็นที่น่าสนใจจากหน่วยงานของสหรัฐ อย่าง FBI ที่เดินทางมาขอดูสำนวนคดีถึงประเทศไทย สามารถปิดคดี จับกุม นายเต็มพงษ์ ฤทธิ์เดช หรือ ส.จ.โต้ง อายุ 36 ปี พร้อมพวก ส.จ.โต้งนั้นเป็น ผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น ใน จ.ปราจีนบุรี ซึ่งมีอิทธิพล ฮั้วประมูลงาน และยัง ใช้อาวุธปืนข่มขู่และทำร้ายนักการเมืองท้องถิ่น ในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี อีกด้วย

และได้ร่วมทีม กับ พ.ต.อ.อธิป แท่นนิล ผู้กำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองปราบปราม ในสมัยนั้น เข้าจับกุมตัว นายสมชาย คุณปลื้ม หรือกำนันเป๊าะ เจ้าพ่อภาคตะวันออก ผู้ต้องหา คดีทุจริตที่ดินเขาไม้แก้ว จ.ชลบุรี และคดีจ้างวานฆ่า นายประยูร สิทธิโชติ หรือ กำนันยูร

ปี 2557 ปิดคดีดังอย่าง จับกุม พล.ท.มนัส เปาริก หรือ เสธ.หยอย อดีตรองแม่ทัพภาคที่ 3 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดทหารบกสระบุรี ข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุน หรือวัตถุระเบิดที่ใช้เฉพาะในการสงคราม ที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ไว้ในครอบครอง และ พล.ท.มนัส เป็นผู้จัดหาอาวุธต่างๆให้กลุ่มชายชุดดำ ผู้ต้องหาก่อเหตุใช้อาวุธสงคราม ยิงใส่ทหารและประชาชน ในช่วงการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) บริเวณแยกคอกวัว เขตพระนคร เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553

ด้วยความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่เบื้องหลังดังกล่าว จึงทำให้ ผกก.สิงห์ ได้รับการขนานนามจากเพื่อนๆและสื่อมวลชน ว่า “สิงห์ กองปราบ”

ล่าสุดปี2561 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คันนายาวบุกจับกุม นายเสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือเสกโลโซ ตามหมายจับศาล จ.นครศรีธรรมราช ในคดี ยิงปืนขึ้นฟ้าหน้าศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช เพื่อนำตัวส่งมอบให้แก้ สภ.พรหมคีรี ดำเนินคดีจนในปี2561 เสกสรรค์ สุขพิมาย ได้ถูกศาลชั้นต้น พิจารณาจำคุก เกือบ3 ปี

จากข้อมูลการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว จะเห็นได้ว่า พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช เป็นผู้ทำงานอยู่เบื้องหลังการจับกุม ปิดคดีสำคัญมากมาย ซึ่งทำงานด้านสอบสวนมาเกือบตลอดทำให้มีความชำนาญในการทำคดี แต่สิ่งสำคัญที่สุด คือ ท่านไม่เคยลืมตัวตนและพยายามสร้างคน สร้างความอบอุ่นทั้งแก่ผู้บังคับบัญชา ผู้ใต้บังคับบัญชา ประชาชน ทุกหมู่เหล่า

นอกจากจะเป็นตำรวจนักบู๊แล้ว ยังเป็นตำรวจนักพัฒนา ซึ่งเมื่อท่าน ผกก.สิงห์ สิงห์เดช ได้ย้ายมาที่ สน.คันนายาว ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไป ในแบบที่ทั้ง ตร. ประชาชน ประทับใจ น้อมนำคำสอนของ ในหลวงรัชกาลที่ 9 สร้างโครงการศาสตร์พระราชา สำเร็จไปแล้วถึง 5 ด้าน คือ ด้านเศรษฐกิจพอเพียง ด้านสหกรณ์ ด้านดนตรี ด้านกีฬา ด้านอาสาสมัคร และได้รับรางวัลจากสมาคมต่างๆ ด้านการพัฒนาโรงพัก อยู่เสมอ

หนังสือพิมพ์กะฉ่อนดอทคอม  ชาย by กะฉ่อน รายงาน