ผู้เสียหายยาขาวเตรียมรวมตัวร้องศูนย์ดำรงค์ธรรม ปทุมธานี หลัง บริษัทเบี้ยวนัดจ่ายเงิน
กะฉ่อนวาไรตี้
วันนี้ 20 มีนาคม 2561 เวลา 14.30 น ที่ ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นาย สามารถ เจนชัยจิตรวนิชประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย นำผู้เสียหาย จากบริษัท เบอร์ไนซ์ จำกัด ที่มีธุรกิจ ขายสินค้า นมผอม-นมขาว ประมาณ 100 คน มูลค่าความเสียหาย กว่า 6 ล้านบาท เข้าประชุมเจรจากับ บริษัท ข้างต้น โดยมี นายประเสริฐ เอมรื่น อัยการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานพิจารณา ไกล่เกลี่ย พร้อม ผ.อ.ศูนย์ดำรงค์ธรรม จังหวัดนครราชสีมา
จากกรณี ผู้เสียหายรวมตัว ยื่นเรื่องร้องทุกข์ ถูกบริษัท ขายผลิตภัณฑ์ดังกล่าว หลอกลวงให้ลงทุนในอาหารเสริม ที่สินค้าไม่มีคุณภาพ ปลอมแปลง อย. เข้าข่ายหลอกลวงประชาชน ซึ่ง ทางจังหวัดนครราชสีมา ได้นัดผู้ต้องหา ร่วมเจรจาเมื่อวันที่ 2 มี.ค. ที่ผ่านมา ซึ่ง เจ้าของผลิตภัณฑ์ ได้ส่งตัวแทนมา รับทราบและได้รับปากว่าจะตรวจสอบเอกสารพร้อมนำเงินคืนผู้เสียหายในวันนี้ แต่เมื่อถึงเวลาประชุม ตัวแทน บริษัท เบอร์ไนท์ จำกัด ที่ได้รับปาก กลับไม่มาตามนัด
นายสามารถ กล่าวว่า วันนี้ ได้ชี้แจง กับท่านอัยการจังหวัด ซึ่งท่านได้ แนะนำให้ผู้เสียหาย ไปแจ้งความร้องทุกข์ ในแต่ละพื้นที่ที่เกิดเหตุ คือที่ที่ผู้เสียหายได้โอนเงินไปให้ทางบริษัท เพื่อความสะดวก และเนื่องด้วยบริษัทดังกล่าวอยู่ จังหวัดปทุมธานี ก็ให้ผู้เสียหายที่เกิดเหตุที่จังหวัดปทุมธานี ไปร้องที่ ศูนย์ดำรงธรรม จังหวัดปทุม พร้อมนำเอกสาร เป็นตัวแทนผู้เสียหายทุกคนไปร่วมชี้แจงด้วย
นายสามารถ กล่าวต่อว่า การจายของบริษัทเบอร์ไนซ์ นั้น จะใช้วิธีการมีแม่ทีม เป็นคนกระจายสินค้า รับโอนเงินจากผู้เสียหาย ก่อนที่แม่ทีมจะจัดการโอนเงินเข้าบริษัท จึงคาดว่า บริษัทเบอร์ไนซ์ จะใช้วิธีการให้ทาง แม่ทีมเป็นผู้รับผิดชอบแทน จึงจะให้ผู้เสียหายรวมตัวไปร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดปทุมธานี พร้อมให้เรียกยอดเงินเต็มจากที่ทางบริษัทดังกล่าว เคยสัญญาไว้ว่าจะให้ดอกเบี้ย หรือค่าเสียหายอื่นๆ คาดว่าค่าเสียหายกว่า11 ล้าน เบื้องต้น นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้สั่งการให้สำนักงานจังหวัดนำผู้เสียหายที่เกิดเหตุในจังหวัดนครราชสีมา ไปดำเนินการแจ้งความแล้ว10คน ในข้อหา ฉ่อโกงประชาชน ปลอมแปลงเอกสารราชการ นอกจากนี้ นายวิเชียร ยังกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือประชาชน ผู้เสียหาย อย่างเร่งด่วน ห้ามปล่อยปละละเลย
ด้านนายประเสริฐ กล่าวว่า เบื้องต้น ได้ให้คำแนะนำ แก่ผู้เสียหายให้ไปร้องที่ ศูนย์ดำรงค์ธรรม จังหวัดปทุมธานี เพื่อเป็นการรวมเรื่อง เอกสาร เบ็ดเสร็จ ในครั้งเดียว และได้สั่งการศูนย์ดำรงค์ธรรมจังหวัดนครราชสีมา ให้ประสานงาน ไปยังศูนย์ดำรงค์ธรรมจังหวัดปทุมธานี เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้เสียหาย ส่วนแม่ทีม ตนเองยังไม่ได้ตัดสินว่าร่วมเป็นฝ่ายหลอกลวงประชาชนต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสอบสวน และหากไม่มีความตั้งใจร่วมหลอกลวง ก็อาจจะกันไว้เป็นพยานในชั้นศาล ซึ่งศูนย์ดำรงค์ธรรมจังหวัด เตรียมส่งเรื่องทั้งหมดภายในวันศุกร์ที่ 23 มี.ค. นี้
หรือ ผู้เสียหายจะร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนตามสถานีตำรวจที่เกิดเหตุก็ได้เช่นใครโอนเงินที่ไหนแจ้งความที่นั่น เพื่อเป็นการสะดวกต่อผู้เสียหาย แต่ต้องติดตามพนักงานสอบสวนในการทวงถามเรื่องการออกหมายเลขคดีเพราะตำรวจดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดได้เช่นเดียวกัน แต่ถ้าตำรวจจับตัวผู้กระทำความผิดได้จะมีเวลา 48 วันในการส่งสำนวนให้อัยการนำตัวผู้กระทำความผิดไปฟ้องต่อศาล
เบื้องต้น นาย วิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ให้หัวหน้าสำนักงานจังหวัดนครราชสีมา พาผู้เสียหาย ที่มีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดนครราชสีมา เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมือง นครราชสีมาแล้ว ในข้อหา ฉ้อโกงประชาชน และ ปลอมแปลงเอกสารราชการ ซึ่งท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ได้กำชับจะดูคดีฉ้อโกงประชาชน อย่างเร่งด่วนเพราะเป็นนโยบายของรัฐบาล
หนังสือพิมพ์กะฉ่อนดอทคอม ชายนพ by กะฉ่อน รายงาน